DO NOT TOUCH
SPECAIL 02
ep.
CUT SCENE :: พี่หยอยขาโหดในโหมดวันวาเลนไทน์
-------------------------------------------------------------
“กากเหรอ? หึ!”
“.....”
“คำนั้นเก็บไว้ใช้กับตัวเองดีกว่า ไอ้ตัวแสบ!”
ชานยอลยกยิ้มร้ายกาจก่อนจะแกล้งกระแทกสะโพกอัดก้นคนตัวเล็กที่กำลังเกาะเกี่ยวเขาเป็นปลิงน้อยอยู่ แบคฮยอนถึงกับหน้าเหวอเพราะไม่คิดว่าชานยอลจะกล้าทำตามคำท้าทายของเขาจริงๆ ไม่ว่าอย่างไงก็ไม่มีใครฟั๊ดกันในท่าแม่ลิงกับลูกลิงอย่างนี้ได้! คนจะทำได้ก็คงจะมีแต่พวกถึกพวกอึดขั้นเทพเท่านั้นแหล่ะ
แต่เดี๋ยวนะ!
ชานยอลก็เป็นพวกนั้นไม่ใช่เหรอ?!!
“อ๊าาา!”
คนตัวเล็กเบิกตากว้างทันทีที่คนตัวสูงกว่าขยับสะโพกเอาไอ้ส่วนนั้นมาถูๆไถๆตรงร่องก้นของเขา เหมือนกำลังละเลงวิปครีมลงบนหน้าเค้ก! ท่าทางของชานยอลดูคล่องแคล่วอย่างไงก็ไม่รู้ ดูเหมือนว่าการห้อยอยู่ในท่านี้จะกลายมาเป็นความถนัดสำหรับชานยอล คนที่เหนื่อยจนแขนจะหักคงจะเป็นเขาสินะ!
“อ๊า ชานยอล ตรงนั้น!”
“อืม ตรงไหน กูยังไม่ทันได้ทำอะไรเลย ทำไม? แค่นี้ก็คอตกแล้วเหรอ?”
ชานยอลยกยิ้มมองไปยังคนตัวเล็กที่หัวตกลงมาจากคอเขาแล้วห้อยอยู่กลางอากาศ หึ! แค่ถูๆก็เป็นขนาดนี้แล้ว ที่ยังทนอยู่ได้เพราะแขนมันเหนียวเป็นปลาหมึกสินะ คอยดูเหอะ เขาจะจุดไฟเผาละลายหนวดปลาหมึกเอง
“อื้ออ”
จมูกโด่งเป็นสันก้มลงไปซูดดมกลิ่นแป้งเด็กอ่อนๆก่อนจะไซ้ไปไซ้มาแถวๆซอกคอคนตัวเล็ก แบคฮยอนหลับตาพริ้มก่อนจะเม้มริมฝีปากตัวเองแน่นเพื่อรับสัมผัสวาบหวาม
ให้ตายสิ..ทำไมชานยอลไซ้คอเก่งแบบนี้ ตอนแรกแบคฮยอนว่าจะไม่แล้วนะ
“อย่าร่วงไปก่อนล่ะ เกาะแน่นๆ”
“อื้อ ชานยอล เราไม่ไหวแล้ว”
“หืม? ไม่ไหว? มึงเนี่ยนะ?”
ลูกลิงพยักหน้ารับหงึกๆอย่างว่าง่าย ไอ้เรื่องกำลังแขนเขาก็พอจะมีนั่นแหล่ะ แต่ถ้าจะให้แบคฮยอนทั้งเกาะทั้งทำอย่างอื่นไปด้วย เห็นทีว่าเขาจะทำไม่ไหว คนเราควรจะมีสมาธิอยู่กับอะไรแค่อย่างเดียว
ชานยอลตอนที่มีกลิ่นเหล้าอ่อนๆซึมออกตามเม็ดเหงื่อนี่มันปลุกเร้าเขาจริงๆ
“ไม่ไหวจริงๆเหรอ เจ้าแสบ”
“อั่ก!!”
ใบหน้าหวานบิดเบี้ยวทันทีที่ร่างกายส่วนนั้นถูกความใหญ่โตของใครอีกคนรุกล้ำแบบไม่ทันได้ตั้งตัว แบคฮยอนกัดริมฝีปากตัวเองจนห้อเลือด ราวกับคนที่เพิ่งจะถูกกระทำครั้งแรก ความจริงแล้วนี่นับเป็นครั้งที่สามที่ชานยอลใส่เจ้างูนั่นมาในตัวของเขา ถ้ามันจะยังเจ็บอยู่ก็ไม่แปลก
“เจ็บเหรอ? หน้าเขียวเชียว ไม่ตดตอนนี้นะ”
“ชานยอลอ่ะ!”
“แบคฮยอน”
“โอ้ย! เบาๆ อั๊ก! เบาๆหน่อยชานยอล!”
คนตัวเล็กแหกปากลั่นร้องเสียงสูงหลายเดซิเบล พอชานยอลเริ่มขยับสะโพกไปมาเขาเองก็เริ่มจะควบคุมอาการที่ว่านั่นไม่ไหว คนตัวเล็กแทบจะไม่รู้ตัวเลยว่าเสียงตัวเองดังแค่ไหน อารมณ์ในตอนนี้ไม่มีกะจิตกะใจจะมาวัดเรื่องความดังของเสียงแล้ว สตงสติเตลิดไปตั้งแต่ที่ชานยอลเอาหัวงูถูร่องก้นเขา
“อืม แบคฮยอน สุดยอดเลย”
ให้ตายสิ! ทำไมชานยอลถึงได้พูดอะไรแบบนั้น สุดยอดอะไร บ้าหรือเปล่า
“อ๊า อ๊า อ๊า!”
เด็กหนุ่มกระแทกสวนอัดเจ้างูเข้าไปในช่องทางฟิตเปี๊ยะ อารมณ์ของชานยอลตอนนี้พุ่งขึ้นสูงระดับขั้นเต็มแม็กซ์ แบคฮยอนยังคงตอบรับเขาได้ดีเสมอไม่ว่าจะเป็นครั้งก่อนหน้านี้ หรือว่าครั้งนี้ก็ตาม ซึ่งนั่นมันทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะเผลอกระแทกใส่เข้าไปอีกเต็มๆแรง
คนตัวเล็กหัวสั่นหัวคลอนอยู่กลางอากาศ ทั้งหัวทั้งคอห้อยอย่างหมดเรี่ยวแรงพลางหลับตาอย่างตั้งอกตั้งใจรับความรู้สึกวาบหวาม ชานยอลร้ายกาจนักที่ทำให้หัวของลูกลิงถูไปมาบนที่นอนได้เหมือนเครื่องดูดฝุ่น สภาพตอนนี้คือผมเผ้าแบคฮยอนยุ่งเยิงไม่เป็นทรง
“อ่า...แข็งแรงหน่อยแบคฮยอน แขนจะหลุดแล้ว”
“อ๊า อ๊า อิ๊! ไม่ไหว เราไม่ไหวแล้ว อื๊ออ! ชานย๊อล อิ๊!”
เสียงเนื้อกระทบกันดังลั่นพอๆกับเสียงครางหวือ
ไม่ไหวแล้ว..แบคฮยอนล้าแขนไปหมด ไม่มีแม้แต่แรงจะหายใจหายคอ เสียงหวานที่ตะโกนในตอนแรกยังคงครางไม่ได้ศัพท์ต่อไปแม้ว่ามันจะแหบไปหมดแล้วก็ตามที คอแห้งไปหมด
ใครก็ได้ เอาน้ำมาให้แบคฮยอนกินที
เหมือนคำขอนั้นถูกได้ยิน เมื่อชานยอลก้มหน้าลงมาใช้ลิ้นอุ่นๆเลียเหงื่อของแบคฮยอนตั้งแต่ไหปลาร้าขึ้นมายันปลายคางมน แบคฮยอนขนลุกซู่ปล่อยแขนออกจากคอใครอีกคนในที่สุด คนตัวเล็กทิ้งแผ่นหลังให้ร่วงลงไปบนเตียง ในขณะที่ขาเรียวยังคงเกี่ยวเอวของใครอีกคนอยู่ ชานยอลมองร่างปวกเปียกของเจ้าตัวแสบที่เก่งแต่ปากพลางยกยิ้มอย่างคนได้รับชัยชนะ
“สองยกนะ มึงแพ้กูแล้ว ไอ้แรคคูน..”
พูดจบก็หยุดขยับสะโพกก่อนจะเอื้อมมือไปดึงแขนของคนตัวเล็กกว่าให้ลอยขึ้นมากอดเขา แบคฮยอนกำลังถูกจับให้นั่งอยู่บนหน้าขาของใครอีกคน ขณะที่ส่วนนั้นยังคงเชื่อมติดอยู่ด้วยกัน แบคฮยอนถึงกับกัดปากตัวเองอีกครั้งเมื่อรู้สึกว่าท่านี้มันเติมเต็มความรู้สึกของเขามากกว่าในทีแรก
“อืม...”
“อ๊ะ! อ๊ะ! อ๊ะ!”
ชานยอลเริ่มขยับสะโพกอีกครั้ง คราวนี้เขาใช้ความหมั่นเขี้ยวที่สะสมมานานเอาคืนคนตัวเล็กไปจนเกือบหมด!สะโพกกลมเด้งขึ้นเด้งลงตอบรับแรงอัดที่กระแทกสวนเข้าไปจากช่องทางด้านล่าง ชานยอลเป็นคนอึดและถึกแค่ไหนเรื่องนี้เขายอมรับตั้งแต่ครั้งแรกที่มีอะไรกันแล้ว
ถ้าแบคฮยอนเป็นผู้หญิงหรือว่าคนอื่นก็คงจะร้องครางอ้อนวอนบอกให้ชานยอลพอได้แล้ว หรือไม่ก็ทำเขาเบาๆหน่อยก็ยังดี ทว่าแบคฮยอนไม่ได้พูดแบบนั้นออกไป กลับกัน เขายิ่งรู้สึกชอบซะอีก ไม่ได้ซาดิสม์หรือว่าอะไรนะ แต่เวลาที่เขาเห็นสีหน้าของชานยอลยามที่ถูกควบคุมด้วยแรงอารมณ์แล้ว เหมือนว่าเขานี่แหล่ะที่เป็นฝ่ายชนะ
แบคฮยอนเม้มกัดริมฝีปากล่างตัวเองค้างเอาไว้ก่อนจะปรือตาใส่ชานยอลอย่างมีความหมาย เขาไม่ได้อ่อยหรืออะไรทั้งนั้น แบคฮยอนก็แค่อยากเห็นชานยอลถูกควบคุมด้วยฤทธิ์ของเขาบ้าง
“ชานยอล~ ” เสียงหวานเอ่ยกระซิบเบาๆที่ข้างหู ชานยอลถึงกับชะงักเล็กน้อย แต่ก็ได้แค่นั้นก่อนจะขยับสะโพกต่อ “ขอ...ขอแรงกว่านี้อีกได้ไหม ชานยอล~ ”
“ห๊ะ?”
“ร่ะ เรา..เรายังไม่สะใจเลยอ่ะ~ ”
ไอ้แสบของเขาต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ
นี่หูชานยอลไม่ได้ฝาดไปใช่ไหม แค่นี้ก็ใส่เต็มที่แล้วนะจะเอาแรงกว่านี้อีกเหรอ?
“ถ้าทำแบบนั้นแล้วมึงไหวเหรอ”
“แค่นี้เองชานยอล....เราชิลล์ๆ”
อ่าให้ตายสิไอ้แรคคูนตัวนี้ชอบเซอร์ไพรส์เขาอยู่เรื่อย สายตาที่มองมาแบบนั้นมันชักจะเกินไปแล้ว! จะดูถูกพี่หยอยขาโหดเกินไปแล้ว!
พลึบ!
“อา..”
ร่างเล็กถูกผลักให้นอนราบลงกับผืนเตียง ชานยอลคร่อมขังใครอีกคนเอาไว้ ก่อนจะก้มหน้าก้มตาดูดขบริมฝีปากบางที่น่าจับจูบให้ช้ำเสียให้รู้แล้วรู้รอด ลิ้นร้อนแทรกเข้าไปในโพรงปากอุ่นๆพลางไล่ตวัดลิ้นเล็กจนได้ยินเสียงน้ำลายเฉอะแฉะ แบคฮยอนปรือตามองคนบนร่างตัวเองพลางตั้งอกตั้งใจตอบรับจูบเร่าร้อนที่ใครอีกคนมอบให้ ไม่บ่อยนักที่พวกเขาจูบกัน ตั้งแต่เข้ามหาลัยมาก็ดูเหมือนว่าต่างคนจะต่างไม่ค่อยมีเวลาเหมือนแต่ก่อน
พอไฟถูกจุดที ไม่แปลกที่มันจะร้อนเร็ว
“อ้าขาออกหน่อยแบคฮยอน” เสียงทุ้มต่ำหอบกระเส่าอย่างต้องการ แต่คนตัวเล็กกลับส่ายหน้ารัวราวกับเด็กดื้อที่ไม่ยอมกินยา
ชานยอลขมวดคิ้วอยู่ครู่นึง จ้องมองไปยังใบหน้าหวานที่ทำเหมือนจะร้องไห้ ทว่าแววตาสีน้ำตาลอ่อนคู่นั่นมันกำลังยั่วเขาราวกับอยากให้เขาพุ่งเข้าไปกินเสียจนเต็มแก่ แบคฮยอนกำลังแกล้งทำตัวย้อนแย้งใส่เขาสินะ นี่เป็นวิธีอ่อยแบบปลุกเร้าฝ่ายรุกด้วยคาแรคเตอร์เด็กเนิร์ดเหรอ?
อ่อยไม่เนียนไปเรียนมาใหม่เถอะบยอนแบคฮยอน
ไม่รอช้า มือหนาจับเข่าบางให้แยกออกจากกันก่อนจะแทรกตัวเข้าไปคุกเข่าอยู่ตรงกึ่งกลางลำตัว ชานยอลสอดใส่ความใหญ่โตของตัวเองเข้าไปในช่องทางรักของใครอีกคนอีกครั้ง พลางเงยหน้าขึ้นหลับตาครางกระเส่าเพราะความคับแน่นที่ตอดรัด
“อ่าา..ซี๊ดดดด”
“อ๊ะ! อ๊า! ช่ะ ช่ะ ช่ะ อ๊ะ! ยอล อิ๊! อ๊า! อิ๊!”
แบคฮยอนครางไม่ได้ศัพท์ขณะที่ถูกอัดกระแทกเข้ามาไม่ยั้ง ตัวเล็กๆสั่นไม่เป็นท่าก่อนที่หัวทุยๆจะเผลอไปโขกเข้ากับหัวเตียงเป็นจังหวะ ชานยอลรีบใช้มือหนาประคองศีรษะของแฟนตัวเล็กเอาไว้ ใช้มันเป็นกำบังไม่ให้แบคฮยอนเจ็บตัว เสียงเนื้อกระทบกันยังคงดังอย่างต่อเนื่อง แม้ว่ามันจะน่าเกลียดแต่ก็แปลกที่มันยิ่งปลุกอารมณ์ให้คนทั้งคู่ได้เป็นอย่างดี
“แบคฮยอนกูจะเสร็จแล้ว”
“ชานยอล อื้อ..ช่ะ ยอล อ่ะ อ่ะ!”
“อ่า....”
น้ำรักสีขาวขุ่นถูกปลดปล่อยออกมาเต็มช่องทางรัก แบคฮยอนนอนหอบกินปล่อยให้ของเหลวที่ว่าไหลลงตามร่องก้น แต่ยังไม่ทันจะได้พักหายใจหายคอ เขาก็ถูกปลุกกระตุ้นอีกครั้งด้วยโพรงปากอุ่นๆ ที่จู่ๆก็ก้มลงมาครอบครองส่วนอ่อนไหวที่ยังชูชัน
“อ๊าชานยอล”
ชานยอลใช้ปลายลิ้นอุ่นๆคลอเคลียไปตามส่วนอ่อนไหวสีชมพูระเรื่อ แบคฮยอนแอ่นสะโพกขึ้นอย่างเสียวซ่านก่อนจะบิดเร้าไปมาอย่างอยู่ไม่สุก ชานยอลช้อนตาขึ้นมามองใบหน้าหวานที่กำลังสุขสมของแฟนตัวเล็กก่อนจะอมยิ้มมุมปาก
ไม่ว่าเวลาไหนแบคฮยอนของเขาก็เซ็กซี่เสมอ
โดยเฉพาะตอนที่หลับตาพริ้มกัดปากตัวเองแบบนี้
“อ๊าาา”
เพียงไม่นานคนตัวเล็กก็ถูกปลดปล่อยให้เป็นอิสระพร้อมกับน้ำสีขาวขุ่นที่พุ่งเข้าไปในปากของชานยอล เด็กหนุ่มตัวสูงกลืนมันลงคอ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาบดขยี้ริมฝีปากบางของใครอีกคนด้วยริมฝีปากหยัก แบคฮยอนยังคงตอบรับเขาได้ดีแม้ว่าร่างบางๆนั่นจะกำลังสั่นเป็นลูกนก
ตัวของแบคฮยอนเกร็งไปหมด
“ชานยอล...เราเหนื่อย”
คนตัวเล็กปรือตามองดูลุ่มผมสีดำหนาที่กำลังขยุกขยิกอยู่ตามซอกคอของเขาอีกครั้ง ตอนนี้แบคฮยอนง่วงจนเต็มแก่แล้ว ที่นอนของเขาชุ่มเหงื่อไปหมด ขืนชานยอลต่อยกสองอย่างที่พูดเอาไว้จริงๆ พรุ่งนี้เขาคงไปเรียนไม่ได้แน่ๆ หนึ่งคือเขาจะต้องซักผ้าปูที่นอน และสองคือนอนพักฟื้นเอาแรงที่เสียไปกับกิจกรรมร่วมรักเมื่อครู่นี้
แบคฮยอนต่อไม่ไหวแล้วนะ
“คนแพ้มีสิทธิ์เรียกร้องได้ด้วยเหรอ หื้ม?” เสียงทุ้มยังคงงัวเงียอยู่ตามซอกหู แบคฮยอนย่นคอก่อนจะเบือนหน้าหนีไปทางอื่นอย่างอ่อนล้า
“แต่ชานยอล ตอนเช้าเรามีเรียนนะ นี่ก็จะตีสองแล้วด้วย”
“วันเสาร์เนี่ยนะ?”
“อืม เรามีเรียนแคลฯอ่ะ รุ่นพี่บอกว่าจะติวให้”
“ใคร?”
“พี่จุนมยอน”
“ไอ้พี่โอโม่อ่ะนะ? นัดจะติวให้มึง?” ชานยอลแทบจะไม่เชื่อรูหูตัวเอง อะไรคือนัดน้องปีหนึ่งติวเงียบๆโดยที่ไม่บอกเขาที่มีสถานะเป็นแฟนเลยสักคำ ไอ้พี่ห่าพวกนี้วอนตรีนจริงๆ “กูติวให้ก็ได้ ไม่ต้องไปหรอก”
“หือ? อย่างชานยอลเนี่ยนะจะติวให้เรา?” แบคฮยอนย่นคิ้วอย่างงงงวย ก็จริงที่ชานยอลอยู่ปีสองและแบคฮยอนอยู่ปีหนึ่ง แต่เรื่องผลการเรียนของชานยอลที่เป็นที่รู้ๆกันเขาไม่คิดว่าชานยอลจะติวให้เขาได้
“ทำไม กูเป็นรุ่นพี่มึงนะ แถมยังเป็นพี่รหัสอีกตั้งหาก”
“พี่รหัสอะไรฟันน้องรหัสตัวเอง แถมยังคร่อมเราเอาไว้ไม่ยอมให้ขยับอีก”
“ก็พี่รหัสอย่างกูนี่ไง” เด็กหนุ่มตัวสูงยกยิ้มเจ้าเล่ห์ก่อนจะก้มลงไปกัดริมฝีปากบางของคนใต้ร่างอย่างหมั่นเขี้ยว แบคฮยอนยู่ปาก
“นิสัยเสียอ่ะ จะฟ้องแม่กาฮี”
“หืมม ก็ฟ้องเลยสิ จะได้ให้แม่มาขอ” อยากจะพูดอย่างนี้ตั้งนานแล้ว นับวันไอ้แรคคูนชักจะยิ่งฮอตทะลุปรอท ถ้าชานยอลไม่รีบให้มนุษย์แม่มาขอ มีหวังโดนคนอื่นแย่งไปแดกหมด “ไม่ต้องไปหรอก ขอนอนกอดวันนึง ปล่อยให้ไอ้พี่โอโม่นั่นนั่งรอไป”
“ดูพูดเข้า ทำไมชานยอลเป็นคนแบบนี้เนี่ย?”
“ก็ไม่ให้ไปไง ใครจะทำไม?” ได้ทีก็ข่มใหญ่ อย่างที่เคยบอกไว้ พักนี้ชานยอลรู้สึกเหมือนคนที่ตกเป็นเบี้ยล่างให้เมียตัวเอง เมื่อโอกาสมาถึง เขาก็ควรจะดึงเอาความโหดกลับมา
“นั่นมันก็เรื่องของชานยอล ถ้าชานยอลไม่ให้เราไป เราจะนอนเดี๋ยวนี้”
เด็กหนุ่มขมวดคิ้วทันทีที่ได้ยินอย่างนั้น พูดแบบนี้แสดงว่าไอ้แรคคูนมันยอมให้เขาต่อรอบสองอย่างนั้นเหรอ? ร้ายกาจ!
“ไปสิ! ติวแคลฯกับคนเก่งๆจะได้ทำข้อสอบได้”
“เปลี่ยนง่ายจังนะ”
“งั้น...” ปลายนิ้วยาวลูบไล้ไปตามโคนขาด้านในอย่างหลงใหล ชานยอลมองหน้าแบคฮยอนในระยะใกล้ด้วยสายตาที่แทบจะกลืนกิน เด็กหนุ่มยกยิ้ม “เราสองคนมาต่อรอบสองกันเถอะ”
--------------------------------------- มาได้ไง มาได้ไง NC มาได้ไง อย่าลืมกลับไปเม้นให้เค้าด้วยนะ คิเถิงงงงมว๊าก >>https://writer.dek-d.com/dek-d/writer/viewlongc.php?id=1421630&chapter=45